ค่านิยม 12 ประการ

ค่านิยม คือ ความนิยมในสิ่งที่มีค่าควรแก่การปกป้องคุ้มครองป้องกันดูแลรักษาไว้ให้มั่นคง ดำรงอยู่ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวม
1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติในปัจจุบัน ทุกชาติจะพัฒนาได้หากเสาหลักหรือสถาบันหลักของชาติเข้มแข็ง ด้วยความรักอย่างถูกวิธีของคนในชาติ สมัยจอมพล ป.สถาบันชาติเข้มแข็งมาก แต่อาจจะไม่สมดุลในสถาบันอื่นๆ ส่วนสมัยจอมพลสฤษดิ์ สถาบันพระมหากษัตริย์เข้มแข็งมาก ในสมัยพลเอกประยุทธ์ เราหวังอย่างยิ่งที่จะเห็น 3 สถาบันหลักของชาติมีความเข้มแข็งอย่างสมดุลดีงาม ชาติบ้านเมืองสงบ คนรักในความเป็นไทยและชาติของเรา พร้อมไปกับยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของศาสนา ขัดเกลาใจคนมีคุณธรรม และยึดมั่นในการเคารพรักพร้อมทั้งเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ไว้อยู่เหนือสิ่งใด
2. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม เรื่องนี้สรุปได้สั้นๆว่า คนไทยต้องมีค่านิยมจิตสาธารณะ ซื่อสัตย์ไม่คดโกงไม่เอาเปรียบคนอื่น เสียสละเพื่อส่วนรวมไม่เห็นแก่ตัว อดทน และมีอุดมการณ์ต่อส่วนรวม จิตสำนึกนี้ใครเห็นใครก็ชม ตัวอย่างนี้ญี่ปุ่นคือตัวอย่างที่ดี
3. กตัญญู ต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ข้อนี้มั่นใจว่าเป็นคุณลักษณะเด่นของคนไทยทุกยุคสมัยอยู่แล้ว
4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษา เล่าเรียน ทางตรงและทางอ้อม ประเทศชาติจะพัฒนาได้บุคลากรของคนในชาติต้องมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นทางวิชาการและทางทักษะความสามารถ คนในชาติมีปัญญามีความรู้ คนในชาติอีกส่วนก็สนับสนุนในภูมิปัญญาความรู้ของคนไทยด้วยกัน เพื่อสร้างค่านิยมใฝ่รู้ใฝ่เรียน เชิดชูคนมีปัญหาให้มากกว่าคนมีทรัพย์สินเงินตรา
5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม ข้อนี้ขอเถอะครับ อยากให้มันเด่นชัดออกมามากๆ จริงๆ เรามีวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามมากมายทัดเทียมระดับโลก เพราะบูรพกษัตริย์ของไทยแต่โบราณรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ เรื่องนี้สอดคล้องกับสถาบันหลักของชาติทั้งหมด ตอนดูภาพยนตร์เรื่อง Grace of Monaco ตะวันตกเขาร้องโอเปร่ากันจนโด่งดังข้ามความนิยมมาถึงเอเชีย ส่วนการแสดงของไทยเราอย่างโขน ปี่พาทย์ ก็อลังการชนะเลิศไปกว่ามากทีเดียว นอกจากนี้ประเทศของเราน่าจะมีหน่วยงานที่ดูแล National Treasure ทุกรูปแบบทั้งสถานที่ทั้งที่สร้างเองและธรรมชาติ สิ่งของที่ประดิษฐ์อย่างประณีตโดยคนในชาติเรา บุคคลสำคัญ รวมไปถึงหนังสือและองค์ความรู้ ภูมิปัญญาชาติไทยเรา มารักษา ทำนุบำรุง สร้างสรรค์ขึ้นมาให้เป็นงานลักษณะพัฒนาอย่างจริงจัง แล้วสร้างจุดขายเชิงรุกให้ประเทศ
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน
7. เข้าใจ เรียนรู้ การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
8. มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ คนไทยต้องซึมซาบจากการเข้าแถว เคารพในการมีระเบียบวินัย จะสร้างการเรียนรู้ไปถึงการเคารพบุคคลอื่น จากนั้นเราก็จะหนักแน่นในการเคารพกฎหมาย
9. มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่าย จำหน่าย และขยายกิจการ เมื่อมีความพร้อม โดยมีภูมิคุ้มกันที่ดี
เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้เป็นการขัดแย้งกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างที่ฝ่ายไม่หวังดีจงใจโจมตี แต่เป็นการพยุงการเติบโตเศรษฐกิจในแต่ละการพัฒนา ให้มีการเติบโตที่เป็นไปอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่หวือหวา แจกรถ ปลดหนี้ ให้บ้าน แบบที่รัฐบาลที่แล้วเพาะเชื้อเอาไว้
11. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอาย เกรงกลัวต่อบาป ตามหลักของศาสนา ย้ำตรง "ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอาย เกรงกลัวต่อบาป" ตัวอย่างผ่านไปหมาดๆ กรณีผู้ว่าการรถไฟคนที่แล้ว
12. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และต่อชาติ มากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
ทั้งหมดนี้คือ ค่านิยมหลักของคนในชาติ ที่น่านำไปแต่งเป็นเพลง เหมือนเพลงวันเด็กที่เราท่องจำจนขึ้นใจ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ทำให้เด็กในยุคสมัยหนึ่งโตขึ้นมา ด้วยการหล่อหลอมแบบนั้น เรื่องแบบนี้ ย้ำกันไปไม่เสียหายครับ หากคนไทยยึดมั่นตามค่านิยมชาติ ที่เน้นทั้งเรื่องการพัฒนาตัวเองทั้งในด้านความสามารถ ทั้งคุณธรรม ศีลธรรม เพื่อร่วมมือกันทำให้ชาติบ้านเมืองและส่วนรวมดีขึ้น เหล่านี้ล้วนดีทั้งนั้น เหล่านี้ล้วนยิ่งต้องเผยแพร่ให้ขึ้นใจ ให้ฝังใจ วันใดคนไทยเข้มแข็ง ชาติเราก็จะเข้มแข็ง
: : คลิปแนะนำ : :
เพื่อความเข้าใจในบทเรียนและการใช้ชีวิต
     
 
ค่านิยม 12 ประการ : การสร้างค่านิยม ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ต้องปลูกฝังลงไปในรากฐานจิตใจ ของเด็กและเยาวชน โดยผู้ใหญ่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ด้วย ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนและโรงเรียนก็ต้องร่วมปลูกฝังเช่นกัน ด้วยการ "อบรม บ่มเพาะ" เริ่มต้นจากการจุดประกายให้คนรับรู้ จากนั้นนำไปสู่การพัฒนา และต่อยอดจนกลายเป็นวัฒนธรรม
<<< ความรับผิดชอบต่อสังคม

 

 

 

Free Web Hosting